2.ชงกาแฟดื่มเอง แทนการซื้อกาแฟสดตามร้าน รสชาติอาจจะอร่อยสู้กันไม่ได้ แต่คิดซะว่ากินเพื่อเติมคาเฟอีน ให้เรามีพลังลุยงานหนักได้
3.จดบันทึกรายการที่จำเป็นต้องซื้อก่อนการไปชอปปิ้ง พยายามจดรายการสินค้าที่จำเป็นต้องซื้อจริงๆ และตั้งใจว่าจะไม่แวะดูแวะซื้อของที่ไม่จำเป็น และซื้อเท่าที่มีในรายการจดบันทึกเท่านั้น
4.ซื้อของไม่ต้องสนใจยี่ห้อถ้าไม่จำเป็น หากว่าสินค้าบางชนิดคุณภาพใกล้เคียงกัน ก็พยายามเลือกซื้อยี่ห้อที่ถูกกว่า อย่าเลือกเพียงเพราะว่าเป็นยี่ห้อที่เราชอบ เพราะบางสินค้ามีคุณภาพเหมือนกันแต่ด้วยความนิยมทางการตลาด ทำให้ราคาสูงแตกต่างกัน
5.หลีกเลี่ยงการใช้ ATM แม้ว่าการใช้ ATM จะสะดวกสบายกว่า แต่ก็ทำให้เราใช้เงินได้ง่ายขึ้น หากจะลองเปิดบัญชีแบบไม่มีบัตรหรือเก็บบัตรเอาไว้ที่บ้าน เวลาที่เราอยากชอปขึ้นมาเราจะต้องนึกถึงว่าต้องออกไปถอนเงินถึงธนาคาร ก็อาจจะทำให้เราเบื่อหน่ายล้มเลิกความคิดนั้นไปได้
6.ลดความจำเป็นของการใช้เครื่องมือสื่อสาร โทรศัพท์ อินเตอร์เนต หรือช่องดาวเทียม ให้อยู่ในแพ็กเกจที่เล็กลง เพราะคุณอาจจะไม่จำเป็นต้องดูโทรทัศจำนวนช่องมากๆ หรือเลิกพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์พูดคุยเรื่องไร้สาระไปเสีย ซึ่งมันไม่เกิดประโยชน์ใดๆเลย
7.ปลูกผักสวนครัว หันมาปลูกผักสวนครัวที่ใช้บ่อยๆ เช่นพริก กระเพรา โหระพา สะระแหน่ ฯลฯ แทนการซื้อ เมื่อต้องการใช้ก็เพียงแค่เด็ดมาเท่าที่ต้องการ
8.หลีกเลี่ยงความอยากในการซื้อ ของที่ไม่จำเป็นแต่อยากได้ ซึ่งมันไม่มีประโยชน์อะไรในชีวิตของคุณ การเลือกซื้อของในแต่ละครั้งควรหาเหตุผลที่มีประโยชน์พอที่จะซื้อ หากไม่มีจงหลีกเลี่ยงของชิ้นนั้นเสีย
9.หากเป็นคนชอบดูภาพยนตร์ ให้หาเวลาไปในช่วงที่หนังลดราคามากที่สุด หรือเปลี่ยนจากโรงหนังมาเช่าหนังจากร้านเช่าแทน คุณอาจจะปรับแต่งห้องของคุณให้มีบรรยากาศคล้ายโรงภาพยนตร์ด้วย จะช่วยสร้างบรรยากาศให้ได้อรรถรสในการรับชมมากขึ้น
10.สอนลูกของคุณให้รู้จักการใช้เงิน หากคุณมีลูก นั้นหมายถึงคุณต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาอีก ดังนั้นคุณควรสอนลูกของคุณให้รู้จักคุณค่าของเงิน และให้รู้จักประหยัด ซื้อของที่จำเป็น จะช่วยลดค่าใช้จ่ายของลูกคุณลงไปได้
ที่มาจาก http://www.thlive.com/26056-how-to-save-money.html